ประโยชน์ของนม มีอะไรบ้าง

1. นมนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้แก่ แคลเซียม, โปรตีน, ธาตุเหล็ก, ไอโอดีน, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, วิตามินบี (1, 2, 5, 12) วิตามินดีและวิตามินเค ซึ่งล้วนแล้วมีความสำคัญต่อร่างกายทั้งสิ้น

2. ช่วยให้กระดูกและฟันมีแคลเซียมเพียงพอ เพื่อในนมนั้นมีแคลเซียมมากถึง 30% เลยทีเดียว ซึ่งแคลเซียมนั้นมีความจำเป็นสำหรับกระดูกและฟันมาก

3. ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆ ในร่างกาย จากโปรตีนที่อยู่ในนม

4. เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้ดีขึ้นจากวิตามินเอที่มีอยู่ในนม

5. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อจากวิตามินบี 1

6. วิตามินบี 2 ที่มีอยู่ในนมนั้น จะช่วยทำให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น

7. ช่วยทำให้ร่างกายใช้ประโยชน์จากคาร์โบไฮเดรตและไขมันได้ดีขึ้นจากวิตามินบี 5

8. วิตามินบี 12 ที่อยู่ในนม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและสมองให้สามารถทำงานได้เต็มที่และดีที่สุด

9. มีวิตามินดีที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งมีผลสืบเนื่องทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง

10. มีวิตามินเคที่เป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายลดการสูญเสียแคลเซียม

11. เสริมสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงซึ่งเป็นผลมาจากธาตุเหล็ก

12. มีฟอสฟอรัสที่เป็นประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน

13. มีไอโอดีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมไปถึงพัฒนาการทางสมอง


ทำอย่างไรให้ได้รับประโยชน์ของนมดีที่สุด

1. อย่างแรกเลยคือเรื่องของการเลือกนม โดยทั่วไปสำหรับเด็กและคนทั่วไปแล้ว เราควรเลือกนมที่มีส่วนผสมของนมแท้ให้มากที่สุด แต่สำหรับผู้สูงวัย เราควรเลือกนมที่มีปริมาณไขมันที่น้อยกว่าปกติ อาทิ นมพร่องมันเนย เป็นต้น

2. เลือกดื่มนมจืดจะได้ประโยชน์ของนมสูงสุด เนื่องจากนมจืดโดยปกตินั้น จะไม่มีการผสมส่วนผสมที่ลดคุณค่าของนม อีกอย่าง การดื่มนมที่ไม่ผสม อย่างเช่น ผสมน้ำตาล จะช่วยทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ของนมสูงสุดและไม่มีผลเสียต่อร่างกายจากน้ำตาลอีกด้วย อาทิ ไม่ทำให้ฟันผุ ไม่ทำให้อ้วน เป็นต้น

3. เมื่อดื่มนมก็ไม่ควรรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ฟอสฟอรัสสูงขึ้นมาก ซึ่งส่งผลทำให้แคลเซียมกับฟอสฟอรัสไม่สมดุล อาจส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง และทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน

4. รับประทานนมในช่วงเวลาที่ท้องว่างหรือรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือก่อนนอน จะช่วยให้ทำให้เราได้รับประโยชน์ของนมได้เต็มที่และดีที่สุด


ที่มา healthtio.com